(แฟ้มภาพซินหัว : กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวชุมนุมบริเวณด้านนอกทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐฯ วันที่ 19 เม.ย. 2025)

ปักกิ่ง, 21 เม.ย. (ซินหัว) -- สื่อหลายสำนักรายงานว่าผู้คนกว่า 970 คน ซึ่งรวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลกหลายสิบคน ได้ลงนาม "คำประกาศต่อต้านภาษีศุลกากร" โดยวิจารณ์นโยบายภาษีที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นำมาใช้ว่าเป็น "ความเข้าใจที่ผิดพลาด" พร้อมเตือนว่าอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากการกระทำของรัฐบาล

รายงานระบุว่าจดหมายฉบับดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังหลายคนร่วมลงนาม รวมถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบลอย่างเจมส์ เฮกแมน และเวอร์นอน สมิธ และเมื่อนับถึงช่วงเช้าของวันอาทิตย์ (20 เม.ย.) มีผู้ลงนามแล้วถึง 976 คน

ในจดหมาย "คำประกาศเรื่องการค้าและภาษีศุลกากร : คำชี้แจงว่าด้วยหลักการแห่งความเจริญรุ่งเรืองของอเมริกา" ผู้เขียนได้ประณามมาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศและภูมิภาคต่างๆ กว่า 180 แห่งทั่วโลก อัตราภาษีตอบโต้นี้คำนวณโดยใช้สูตรที่ผิดพลาดและคิดขึ้นเอง และไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ทรัมป์ประกาศกำหนดภาษีต่อคู่ค้าของสหรัฐฯ พร้อมเรียกวันดังกล่าวว่าเป็น "วันปลดปล่อย" แต่เพียงหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขากลับสั่งระงับการจัดเก็บภาษีนำเข้าสูงสุดเป็นเวลา 90 วัน โดยยังคงอัตราภาษีพื้นฐานไว้ที่ร้อยละ 10 สำหรับประเทศส่วนใหญ่

นโยบายภาษีของทรัมป์ทำให้เกิดการเทขายหุ้นจำนวนมากในตลาดหุ้น รวมถึงการจัดเก็บภาษีตอบโต้และมาตรการตอบโต้อื่นๆ โดยนานาประเทศ ซึ่งคาดว่าคนงานชาวอเมริกันจะได้รับผลกระทบหนักจากนโยบายที่ผิดพลาดเหล่านี้ ทั้งในรูปแบบของราคาที่สูงขึ้นและความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากการกระทำของรัฐบาล

ด้านทรัมป์แย้งว่าภาษีนี้มีไว้เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าโดยรวมที่ยืดเยื้อ และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี จดหมายฉบับดังกล่าวระบุว่าภาษีของรัฐบาลชุดปัจจุบันมีแรงจูงใจจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสภาพทางเศรษฐกิจ

กลุ่มผู้เขียนเรียกร้องให้ยุตินโยบายที่ไม่สอดคล้องและสร้างความเสียหายนี้ และแสดงความหวังว่าหลักการเศรษฐศาสตร์ที่สมเหตุสมผล หลักฐานเชิงประจักษ์ และบทเรียนจากประวัติศาสตร์จะสามารถเอาชนะความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการกีดกันทางการค้าในปัจจุบัน

บทความก่อนหน้า

กิจกรรมพบปะ-ให้อาหาร 'กระต่ายขนฟู' ฉลองอีสเตอร์ในแคนาดา

บทความถัดไป

ชาวประมงลอยลำทำฟาร์มทะเลในซานตง